การฝังเข็มแบบตะวันตก กับ การฝังเข็มแบบจีน เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ?

การฝังเข็มแบบตะวันตก กับ การฝังเข็มแบบจีน เหมือนหรือต่างกันอย่างไร เป็นคำถามที่คนไข้มักจะสงสัยและถามหมออยู่เสมอ เวลาพูดถึงการฝังเข็ม หลายคนจะนึงถึงการฝังเข็มของแพทย์จีนเป็นหลัก แล้วการฝังเข็มแบบตะวันตกแตกต่างจากการฝังเข็มแบบจีนอย่างไรบ้าง วันนี้หมอมีคำตอบมาให้ค่ะ

ความแตกต่าง

การฝังเข็มแบบตะวันตก (Dry Needling) กับการฝังเข็มแบบจีน (Acupuncture) แม้จะมีความคล้ายคลึงกันตรงที่ใช้เข็มตันปราศจากเชื้อขนาดเล็กแทงเข้าไปในร่างกาย แต่ทั้งสองวิธีมีความแตกต่างสำคัญในหลักการ เทคนิค และการประยุกต์ใช้ ดังนี้ค่ะ

หลักการ

การฝังเข็มแบบตะวันตก (Dry needling): ยึดหลักการแพทย์แผนตะวันตก มุ่งเน้นระบบประสาทกล้ามเนื้อ (Neuromuscular) และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Myofascial) เพื่อจัดการจุดกดเจ็บ (Trigger Point) และบรรเทาอาการปวดของกล้ามเน้อ

การฝังเข็มแบบจีน: ยึดหลักการแพทย์แผนจีน (TCM) มุ่งเน้นการปรับสมดุลพลังงาน (ชี่) ผ่านเส้นลมปราณ (Meridian) เพื่อส่งเสริมสุขภาพโดยรวมและรักษาอาการต่างๆ

เทคนิค

การฝังเข็มแบบตะวันตก: ใช้เข็มตันแทงเข้าไปในจุดกดเจ็บ (Trigger Point) ของกล้ามเนื้อ อาจมีการขยับเข็มไปมารอบบริเวณที่เป็นจุดกดเจ็บ เข็มมักจะไม่คาไว้นาน

การฝังเข็มแบบจีน: ใช้เข็มตันขนาดเล็กแทงเข้าไปยังจุดฝังเข็ม (Acupuncture Point) เฉพาะจุด ตามเส้นลมปราณ คาเข็มไว้นานประมาณ 15 – 30 นาที

การประยุกต์ใช้

การฝังเข็มแบบตะวันตก: ใช้รักษาอาการปวดกล้ามเนื้อและกระดูกเป็นหลัก เช่น กล้ามเนื้อตึง จุดกดเจ็บ และกลุ่มอาการปวด นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของพิสัยการเคลื่อนไหวของข้อต่อและการทำงานของกล้ามเนื้อได้

การฝังเข็มแบบจีน: สามารถรักษาอาการต่างๆ ได้หลากหลาย รวมถึงอาการปวดกล้ามเนื้อและกระดูก แต่ยังรวมถึงปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ปวดหัว วิตกกังวล นอนไม่หลับ และภูมิแพ้ มุ่งเน้นการปรับสมดุลและส่งเสริมสุขภาพโดยรวม

สรุป

ผู้ประกอบวิชาชีพ: การฝังเข็มแบบตะวันตก ในประเทศไทย สามารถทำโดยแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ในขณะที่การฝังเข็มแบบจีน ทำโดยแพทย์แผนจีน หรือ แพทย์แผนปัจจุบันที่ได้รับการอบรมการฝังเข็มแบบจีน

หากใครสนใจการฝังเข็มแบบตะวันตก เผื่อคลายจุดปวดของกล้ามเนื้อ สามารถมาปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูได้ที่ฟรีเซีย รีแฮป คลินิก คลินิกฟื้นฟูและกายภาพบำบัด พระราม 3 ได้เลยค่ะ