อาการปวดขา ปัญหาสุขภาพที่พบเจอบ่อยและสร้างความรำคาญใจให้กับหลายๆ คน อาการปวดขาอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเราได้อย่างมาก
อาการปวดขา คืออะไร?
อาการปวดขา หมายถึง อาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบริเวณขา ซึ่งอาจเป็นตั้งแต่ต้นขา น่อง หรือเท้า อาการปวดขานั้นอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากการบาดเจ็บ การใช้งานขาซ้ำๆ หรือโรคบางชนิดก็ตาม
สาเหตุของอาการปวดขา
- การบาดเจ็บ: จากอุบัติเหตุ การออกกำลังกาย หรือ การใช้งาน ทำให้เกิดการบาดเจ็บ เกิดกล้ามเนื้อฉีก เส้นเอ็นอักเสบ หรือกระดูกหักได้
- การใช้งานขาซ้ำๆ: เกิดจากการยืน เดินมากเกินไป หรือการออกกำลังกายที่หนักเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อล้า เกิดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อเป็นตะคริว หรือ ทำให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อได้
- โรคข้อเสื่อม: เกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนที่รองรับข้อต่อ จากความเสื่อมตามวัยหรือเคยมีประวัติบาดเจ็บบริเวณข้อมานาน
- โรคหลอดเลือด: เช่น โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน ทำให้มีอาการปวดที่ขา ปลายเท้าซีด หรือ นิ้วเท้าดำจากการขาดเลือดเรื้อรังและรุนแรง
- โรคอื่นๆ: เช่น โรคเบาหวาน โรคเกาต์ โรคเส้นประสาทอักเสบ
กลุ่มเสี่ยงและอาการเตือนที่ควรระวัง
- ผู้ที่สูบบุหรี่
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคไต โรคหัวใจ
- ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะพักการใช้งานแล้ว
- ปวดจนตื่นกลางดึก
- ขาบวมมากและมีไข้
- มีแผลที่ขาไม่หาย
- รู้สึกชาที่ขาเป็นเวลานาน
การรักษาอาการปวดขา
การรักษาอาการปวดขาขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ แนะนำวิธีการรักษาด้วยตนเองในเบื้องต้น ดังนี้
- พักการใช้งาน: หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ขาเจ็บมากขึ้น พักการใช้งานขาข้างที่มีอาการ หรือ ใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน
- การประคบเย็น: จะช่วยลดอาการปวดและบวมได้ในระยะเฉียบพลัน
- การรับประทานยา: ได้แก่ ยาลดการอักเสบ หรือยาแก้ปวด เพื่อลดอาการปวด และยาคลายกล้ามเนื้อ
- การออกกำลังกาย: เช่นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เพื่อลดอาการตึงของกล้ามเนื้อ การออกกำลังเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อขา และเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ เอ็นและข้อต่อ
หากอาการไม่ดีขึ้น มีอาการปวดขาเป็นเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง การรักษาที่ถูกต้องจะช่วยบรรเทาอาการปวดและป้องกันไม่ให้อาการแย่ลงได้ เช่น
- การทำกายภาพบำบัด: เช่น การใช้เครื่องเลเซอร์พลังงานสูง (HPL) เพื่อลดการอักเสบ ลดปวด ลดบวมในระยะเฉียบพลัน การใช้เครื่องกระตุ้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (PMS) เพื่อลดอาการปวดและคลายกล้ามเนื้อ
- การฉีดยา: เช่น การฉีดน้ำหล่อเลี้ยงข้อ ในรายที่มีอาการปวดจากข้อเข่าเสื่อม
- การผ่าตัด: ในกรณีที่อาการรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่นๆ
การป้องกันอาการปวดขา
- ควบคุมน้ำหนัก: น้ำหนักตัวที่มากเกินไปเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อเสื่อม
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อขา
- วอร์มร่างกายก่อนออกกำลังกาย: ช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ
- เลือกชนิดของกีฬาที่เหมาะสม: หลีกเลี่ยงกีฬาที่ก่อให้เกิดแรงกระแทกต่อขามากเกินไป
- สวมใส่รองเท้าที่เหมาะสม: ช่วยรองรับน้ำหนักตัวและลดแรงกระแทก
อาการปวดขาเป็นอาการที่พบได้ได้บ่อย หากคุณมีอาการปวดขา สามารถมาปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูได้ที่ ฟรีเซีย รีแฮป คลินิก คลินิกฟื้นฟูและกายภาพบำบัด พระราม 3 ได้เลย ทางเรามีคุณหมอและเครื่องมือสำหรับการทำกายภาพเพื่อรักษาอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ